กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนใส่ใจสุขภาพด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยในรูปแบบแม่ไม้มวยไทยซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ
ดร. นพ. พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า “กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข มีพันธกิจในการเสริมสร้างสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรงให้กับประชาชนชาวไทย จึงได้นำศิลปะแม่ไม้มวยไทยมาผสานท่วงท่าและลีลาการเต้นประกอบจังหวะดนตรีเพื่อการออกกำลังกาย กลายเป็น “คีตะมวยไทย แอโรบิก” มิติใหม่ของการออกกำลังกายที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพพร้อมทั้งชูเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทยได้อย่างลงตัว โดยร่วมกับบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรมการแข่งขันประกวดเต้น ‘บีแอลเอ แฮ็ปปี้ ไลฟ์ คีตะมวยไทย แอโรบิก’ เป็นช่องทางหนึ่งในการเข้าถึงและช่วยให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชนทั่วประเทศ ”
คุณเรืองศักดิ์ ปัญญาบดีกุล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายการตลาด บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “หนึ่งในพันธกิจของกรุงเทพประกันชีวิต คือ ส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพดี เราจึงสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสุขภาพของประชาชนอย่างต่อเนื่องตลอดปี โครงการ บีแอลเอ แฮ็ปปี้ ไลฟ์ คีตะมวยไทย แอโรบิก เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตามด้วยการจัดกิจกรรม ‘Train the Trainers’ เพื่ออบรมผู้นำเต้นในชุมชน และสร้างเครือข่ายผู้ถ่ายทอดความรู้ในการออกกำลังกายด้วยการเต้นคีตะมวยไทยที่ถูกต้อง โดยจัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร มีครูสอนแอโรบิกและผู้นำเต้นจากแต่ละชุมชนในท้องถิ่นเข้าร่วมรับการอบรมกว่า 120 คน และได้นำคีตะมวยไทยแอโรบิกไปเผยแพร่ให้กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างทางเว็บไซต์และลงพื้นที่ เพื่อรณรงค์การออกกำลังกายด้วยการเต้นคีตะมวยไทยแอโรบิกในจังหวัดต่างๆ ทั่วทั้ง 4 ภูมิภาคตลอดปี โดยบริษัทยังได้จัดทำมิวสิควิดีโอแนะนำท่าเต้นและเพลงคีตะมวยไทยแอโรบิก ‘ลุกสู้’ ซึ่งได้ศิลปินหนุ่มมากความสามารถ ‘กำปั้น – พีระ พาณิชย์พงส์’ เป็นผู้ขับร้อง เพื่อให้ประชาชนสามารถนำท่าเต้นไปสร้างสรรค์ลีลาที่ถูกต้องในแบบของตนเองและส่งคลิปวิดีโอเข้าร่วมประกวดในกิจกรรม ‘บีแอลเอ แฮ็ปปี้ ไลฟ์ คีตะมวยไทย แอโรบิก’ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชนทั่วประเทศ ”
สำหรับกิจกรรม “บีแอลเอ แฮ็ปปี้ ไลฟ์ คีตะมวยไทย แอโรบิก’’ มีผู้เข้าร่วมการประกวดและส่งคลิปวิดีโอกว่า 40 ทีมจากทั่วประเทศ โดย 5 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศประกอบด้วย ภาคเหนือ ทีมชมรมแอโรบิก จ. พิษณุโลก ภาคใต้ ทีมชมรมแอโรบิก บ้านศรีพนม อ.ท่าชนะ จ. สุราษฏร์ธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทีมลูกพญานาค โรงเรียนฮั่วเคียวกงฮัก จ. หนองคาย ภาคกลาง ทีม S.Y. Boxing Girls โรงเรียนศรียานุสรณ์ จ. จันทบุรี และทีมวัดนวลนรดิศ จากกรุงเทพมหานคร ซึ่งเดินทางมาร่วมประชันลีลาการเต้นเพื่อชิงความเป็นหนึ่งและเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 100 ,000 บาท